
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
จะดีแค่ไหนถ้าผู้ขับขี่รถยนต์รู้จักวิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ของตัวเอง เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาจะได้รีบนำส่งซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์หรือเรียกประกันรถยนต์ให้มาดูแลและจัดการปัญหาต่าง ๆ แทน และในบทความนี้ Big C Insurance Service จะนำวิธีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์แบบเบื้องต้นมาฝากทุกคนกันค่ะ
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเอง
ตรวจเช็คสัญญาณไฟ และไฟส่องสว่าง
สัญญาณไฟถือเป็นเครื่องมือการให้สัญญาณต่าง ๆ กับผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นที่ใช้ถนนร่วมกัน และไฟส่องสว่างเป็นเครื่องมือส่องสว่างในตอนกลางคืนและยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 30% เมื่อเปิดไฟส่องสว่างขณะที่ขับขี่รถยนต์ในตอนกลางวัน ดังนั้นก่อนจะขับรถออกจากบ้านควรใช้เวลาสัก 5 นาทีตรวจเช็คสัญญาณไฟและไฟส่องสว่างว่าใช้งานได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายได้
ตรวจเช็คสภาพยางและลมยางรถยนต์
ตรวจเช็คสภาพลมยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ หากพบว่ามีล้อไหนลมหายไปเยอะผิดปกติก็ควรนำรถยนต์ไปเติมยางรถยนต์ทันที และถ้าหากพบว่ายางรถยนต์เป็นต้นเหตที่ทำให้ยางรถยนต์รั่วอยู่บ่อย ๆ ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยของเราเอง
ตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์
คอยตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เป็นประจำว่าระดับน้ำกลั่นอยู่ในระดับที่ถูกกำหนดไว้หรือไม่ และคอยตรวจสอบความเรียบร้อยของฉนวนหุ้มสาย และอย่าลืมทำความสะอาดรอยเปื้อนบริเวณแบตเตอรี่รถยนต์ด้วย
น้ำมันเบรก
การที่น้ำมันเบรกหายไปหลายคนอาจจะคิดว่าต้องรีบเติมน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่พอดีโดยที่ไม่รู้ว่าระบบเบรกเป็นระบบปิดจะไม่มีการระเหยเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นเมื่อเราสังเกตเห็นว่าน้ำมันเบรกหายไป อาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผ้าเบรกของรถยนต์เริ่มสึก อย่างไรแล้วก็ควรรีบนำรถยนต์ไปตรวจเช็คกับผู้เชี่ยวชาญในขั้นตอนต่อไป
รถยนต์กับประกันรถยนต์เป็นของคู่กัน
เมื่อเราได้ให้ความสำคัญกับการใช้งานของรถยนต์แล้ว อย่าลืมทำประกันรถยนต์เอาไว้ด้วยนะคะ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้มีตัวช่วยดูแลเรื่องค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และสำหรับผู้ที่สนใจทำประกันรถยนต์อยู่ในตอนนี้ สามารถเข้ามาเลือกและเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ในเว็บไซต์ของเรา เพราะเราพร้อมที่จะส่งมอบประกันรถยนต์คุณภาพและความคุ้มค่าให้กับคุณค่ะ