เนื่องจากรถมอเตอร์ไซด์เป็นยานพาหนะขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเราเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อมีผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์เป็นจำนวนมากอัตราการเกิดอุบัติเหตุจึงสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน จากสถิติพบว่าการเกิดอุบัติเหตุนั้นมีสาเหตุมาจากการขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นสะพาน ข้ามแยก ลอดอุโมงค์ หรือบนถนนที่ไม่ได้ออกแบบช่องทางจราจรไว้ให้สำหรับรถมอเตอร์ไซด์ และด้วยระบบความปลอดภัยที่ต่างจากรถยนต์ จึงกลายเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมกฎหมายจราจรในปัจจุบันถึงมีข้อบังคับไม่ให้รถมอเตอร์ไซด์ใช้ถนนในพื้นที่บางส่วน แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซด์ที่ได้ออกมาต่อต้านกับข้อบังคับเหล่านี้ และมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมสำหรับพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น กรณีสะพานภูมิพลที่ห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์ต้องเสียเวลาใช้เรือข้ามฟากแทน

และถึงแม้ว่าจะมีข้อบังคับเหล่านี้เราอาจจะสามารถพบเห็นรถมอเตอร์ไซด์อยู่ตามถนนเหล่านี้ได้อยู่บ่อย ๆ จึงเกิดคำถามตามมาว่า แล้วถ้าเป็นกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนนที่ห้ามให้รถมอเตอร์ไซด์วิ่ง โดยเฉพาะอุบัติเหตุการชนกันระหว่างรถยนต์กับรถมอเตอร์ไซด์ ฝ่ายไหนกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายผิด? วันนี้ Big C Insurance Service จึงได้นำข้อมูลมาไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน “รถคันที่ใหญ่กว่า” ไม่จำเป็นที่จะต้องผิดเสมอไปอย่างที่เราได้ยินกันมาอยู่บ่อย ๆ เครื่องมือในการวินิจฉัยว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดให้ดูจากองค์ประกอบของกฎหมายจราจร พฤติการณ์ของคนขับแต่ละคัน และเจตนาเป็นหลัก ดังนั้นหากเราคือผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ที่วิ่งขึ้นสะพานภูมิพล และโดนชนจากรถยนต์ที่ถูกวินิจฉัยแล้วว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์ ในกรณีนี้ผู้ขับขี่รถยนต์จะถือว่าเป็นฝ่ายผิดและต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์จะต้องเสียค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมายจราจรด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ขับชนรถยนต์ที่วิ่งอยู่สะพานภูมิพล และถูกวินิจฉัยแล้วว่าเกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์จะถือว่าเป็นฝ่ายผิดและต้องรับผิดชอบตามกฎหมายพร้อมกับเสียค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมายจราจรด้วย